10 สถานที่พิชิตใจสาว จากรอบโลก
สำหรับคนที่อยากสร้างความประทับใจให้กับหวานใจนี่คือ 10 สถานที่พิชิตใจสาว ในเดือนแห่งความรักที่เราคัดมาแล้วจากทั่วโลก บอกเลยว่าถ้าพาพวกเธอไปได้รับรองเห็นสวรรค์อยู่รำไรแน่นอน
1.Skylodge โรงแรมบนหน้าผาในเปรู
ถ้าคุณเป็นคนนึงที่รักในความท้าทายและยอมเสี่ยงตายเพื่อให้ตัวเองไปยังจุดหมายที่ต้องการแล้วล่ะก็ สถานที่ที่เราจะพาคุณไปต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณอย่างแน่นอนSkylodge คือโรงแรมที่ตั้งอยู่บนหน้าผาในหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ Cuzco ในเปรู โดยเป็นรูปแบบแคปซูลโปร่งใสที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย ไม่ใช่…แขวนอยู่บนหน้าผาสูง 400 ฟุตเหนือพื้นดินเราว่าเหมาะกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันเป็นที่สุด เพราะนอกจากคุณ 2 คนมีเพียงแค่ท้องฟ้าเป็นเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่อย่าโรแมนติกมากจนทำอะไรรุนแรงมากแล้วกัน อย่าลืมว่านี่อยู่บนความสูง 400 ฟุตนะ ค่าเข้าพักอยู่ที่ 300 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 9,000 บาทต่อคืน
2.Grotta Palazzese
โรงแรมที่ตั้งอยู่ในเมือง Polignano ติดทะเลทางใต้ของประเทศอิตาลี ไฮไลท์ของที่นี่คือภัตตาคาร The Seaside ที่ตั้งอยู่บริเวณถ้ำริมหน้าผาอันน่าสะพรึงแต่แฝงด้วยความงามในคราวเดียวกันเมื่อมองไปเบื้องล่างความสูง 73 ฟุต คุณจะเห็นเกลียวคลื่นที่ซัดถาโถมเข้ากับหน้าผาอย่างบ้าคลั่ง ตรงกันข้ามกับด้านบนที่สวยงามจากดวงไฟที่ประดับประดาสำหรับดินเนอร์มื้อเย็นของคุณ ถือว่าเป็นจุดที่บรรยากาศแสนโรแมนติกสมบูรณ์แบบเกินคำบรรยายจริงๆ สถานที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งในอดีตเคยตกเป็นอาณานิคมของกรีกมาก่อน คาดเดากันว่าในส่วนของภัตตาคารนั้นอาจเคยเป็นที่รับรองพวกขุนนาง นักการเมืองชั้นสูงมาก่อนในยุค คศ.1700 น่าจะเป็นส่วนที่ทำให้หน้าผาแห่งนี้เหมาะกับการเป็นโรงแรมและภัตตาคาร
3.Ke'er
Ke'er หรือที่จะแปลว่าเปลือกหอยนั่นเอง โดยเมื่อปีที่แล้วร้านนี้ได้ถูกนำเสนอโดยบทความจาก Reuters มาแล้วด้วย จึงไม่แปลกที่ร้านนี้จะได้รับความนิยมและมีคนเข้ามาใช้บริการอย่างล้นหลามโดยการบริการของร้านนั้นจะให้บริกรแต่ตัวด้วยผ้ากันเปื้อนที่มีหน้าอกติดอยู่ และเสิร์ฟน้ำดื่มจากแก้วน้ำที่มีรูปทรงเหมือนกับหน้าอกผู้หญิง และยังประดับไปด้วยตุ๊กตายางที่ตกแต่งให้เป็นสไตล์ S&M โซ่แซ่กุญแจมือไปทั่วทั้งผนังร้านและที่เด็ดกว่านั้น ร้านนี้เคยถูกสั่งปิดมาแล้วหนึ่งครั้ง เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ เมื่อช่วงเมษายนที่ผ่านมา หลังจากจัดกิจกรรมพิเศษให้กับลูกค้าด้วยการให้ ลูกค้าสามารถลูบคลำหน้าอกของผนักงานหญิงได้ขณะที่พวกเธอเสิร์ฟอาหาร ไปจนถึงตีก้นสาวเสิร์ฟได้อยากไม่ผิดกฎ ตลอดไปถึงการใช้กุญแจมือมัดตัวแขกแล้วให้สาวเสิร์ฟป้อนอาหารมาก็มีแล้ว
4.Faralda Crane Hotel
ตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ คือโรงแรมที่มาแบบแปลกแหวกแนวเพราะไปอยู่บนเครนเดินเรือซึ่งปลดระวางแล้วหนัก 250 ตันซึ่งถูกนำมาดัดแปลงจนเป็น โรงแรมสุดหรู และ สุดคูลในเวลาเดียวกันที่สำคัญมันสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเปลี่ยนวิวทิวทัศน์ไปได้เรื่อยๆ บนความสูงจากพื้นดินถึง 50 เมตร โดยอัตราค่าที่พักตกอยู่ประมาณ 400 เหรียญสหรัฐฯต่อคืน (12,800 บาท) เท่านั้น
5.Japan Love Hotel
สถานที่ซึ่งเรียกกันว่าเลิฟโฮเทลของคนญี่ปุ่น อารมณ์จะคล้ายๆ โมเทลของบ้านเราแต่ของเขาเรียกว่าหลากหลายกว่าเราเยอะ เหตุผลสำคัญที่โรงแรมแนวนี้มีเยอะก็เพราะว่าคู่รักหนุ่มสาวญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานล้วนมีเวลาส่วนตัวด้วยกันน้อยมาก และสังคมคนญี่ปุ่นจะอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ บางคนต้องอยู่กับญาติผู้ใหญ่หรือมีเด็กอาศัยอยู่ด้วย ที่พักอาศัยก็ไม่ได้ใหญ่โต ดังนั้นจึงเป็นอุปสรรคสำคัญเมื่อต้องทำภารกิจรักบนเตียง ดังนั้นเลิฟโฮเทลคือคำตอบสุดท้ายของคู่รักที่ต้องการเวลาส่วนตัวปัจจุบันคาดว่าโรงแรมแนวนี้มีจำนวนถึง 38,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกปี เราก็ได้แต่ภาวนาให้ประเทศมีแบบนี้บ้างจะรีบไปใช้บริการเป็นคนแรกเลย
6.Attrap' Rêves
โรงแรมในฝรั่งเศสที่มีหลายสาขาอยู่ใน Alps, Provence, and Côtes d'Azur คุณสามารถนอนมองท้องฟ้าได้สุดลูกหูลูกตาภายใต้บ้านฟองอากาศใสแจ๋วขนาดสูง 10 ฟุต กว้าง 14 ฟุต พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ เฟอร์นิเจอร์สุดหรู ที่ขาดไม่ได้คือกล้องโทรทัศน์ผู้ช่วยในการนับดาวของคุณ โดยตัวบ้านนั้นทำจากวัสดุที่กันรังสียูวี และมีความปลอดภัยสูงคุณจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีอะไรมาสร้างความกังวลให้คุณได้อย่างแน่นอน สนนราคาไม่เท่ากันในแต่ละโลเกชั่นเริ่มจาก 143 ยูโร จนไปถึง 655 ยูโร
7.dinning in the sky
รายละเอียดคือเค้าจะใช้เครนตัวเบ้งยกโต๊ะอาหาร (รวมถึงเก้าอี้ด้วย) ขึ้นไปบนอากาศสูงถึง 50 ฟุต โดยโต๊ะบรรจุผู้โดยสารได้ 22 คน ยังไม่รวมเชฟและพนักงาน และอยากบอกว่าอุปกรณ์ทั้งหมดนั้นดัดแปลงมาจากเครื่องเล่นจากสวนสนุกและอุปกรณ์บันจี้จัมป์ซึ่งเป็นอะไรที่นึกถึงความผาดโผนอย่างรุนแรง คุณสามารถเลือกได้ว่าจะไปนั่งกินอยู่เหนือที่ใดไม่ว่าจะเป็นชายหาดไกลสุดลูกหูลูกตาหรือสถานที่ชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก อาทิเช่น โตเกียว ลาสเวกัส ฝรั่งเศส ฯลฯ
8.Giger Land
เหมาะสำหรับคู่รักสยองขวัญสุดๆ H.R.Giger Museum ตั้งอยู่ในเมือง Gruyère ในสวิสเซอร์แลนด์ คุณจะเห็นงานแนว Biomechanoid อยู่ประปรายไม่ว่าจะเป็นพื้นถนนหรือประติมากรรมเด็กถือปืนและเมื่อเดินผ่านประตูแบบยานอวกาศเข้ามานั่นทำให้คุณอยู่ในฝันร้ายอย่างสมบูรณ์แบบทุกๆ อย่างจะเกี่ยวพันกับเอเลี่ยนจัดเต็มด้วยงานศิลปะที่ศิลปินได้สร้างสรรค์มาตลอดชีวิต หรือถ้าใครเกิดหิวขึ้นมากะทันหันให้ไปที่ The Alien Skeleton Bar ที่อยู่ใกล้ๆ ในบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจเหมือนถูกจ้องมองด้วยบรรดาเอเลี่ยนอยู่ตลอดเวลาแต่ส่วนที่ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้อลังงานงานสร้างคือโครงสร้างกระดูกบนเพดานและ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดไม่หลุดคอนเซ็ปต์เอเลี่ยนสักนิดเดียว
9.Goldfinch Restaurant
มื้อหนักของเราคราวนี้ขอพาทุกคนไปดื่มด่ำบรรยากาศคลาสสิกกันที่ Goldfinch Restaurant ชื่อร้านอาจฟังไม่คุ้นหูแต่น่าสนใจมากโดยเฉพาะสำหรับใครที่ชื่นชอบหนังของ 'หว่อง กา ไว' เจ้าพ่อหนังรักเหงาๆ ผู้กำกับชื่อดังของฮ่องกง ที่นำร้านนี้ไปเป็นฉากในหนังของเขาถึง 2 เรื่อง 2046 และ In the mood for loveGoldfinch Restaurant หรือ Cafe de Goldfinch ตั้งอยู่ที่ Causeway Bay ใน Hong Kong เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1962 ซึ่งยาวนานเกินครึ่งศตวรรษไปแล้วและถือว่าเป็นร้านอาหารแห่งแรกที่เป็นสไตล์ตะวันตกบนเกาะฮ่องกงอีกด้วย สไตล์ร้านเป็นยุค 60's ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ รวมถึง จาน ชาม ช้อน ที่ว่ากันว่าคงสภาพมาจากยุค 60's ทั้งหมดส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ร้านนี้ดูคลาสสิกสุดๆ คือ วอลเปเปอร์ที่คงสภาพได้อย่างสมบูรณ์รวมถึงพรม โคมไฟต่างๆ ที่เป็นแบบดั้งเดิมสร้างบรรยากาศให้ดูย้อนยุคขึ้นไปอีก
10.vintage rolleiflex houses
เปลี่ยนอารมณ์มาเอาใจคนรักกล้องกันบ้าง เราขอพาไปเที่ยว Dreamy Camera Cafe ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในจังหวัดยองกิ ประเทศเกาหลีใต้ สิ่งที่โดดเด่นของร้านนี้คือตัวอาคารที่สร้างขึ้นมาเป็นกล้อง Rolleiflex twin lens สีแดงสุดคลาสสิกซึ่งสังเกตดีๆ จะเห็นความละเอียดที่เหมือนกล้องจริงแทบทุกจุดไม่ว่าจะเป็นหน้าเลนส์ ชัตเตอร์ ที่หมุนโฟกัส เหมือนสัดส่วนที่เหมือนย่อลงมาจากกล้องจริงเมื่อก้าวเข้ามาภายในร้านจะพบการตกแต่งสุดเก๋ที่คนรักกล้องต้องตาลุกวาวเพราะของแต่งร้านล้วนแต่เป็นกล้องโบราณหลากหลายยี่ห้อที่น่าจะถูกใจใครหลายคนคือกล่องกระดาษทิชชู่ที่ยังเป็นทำเป็นกลักฟิล์มแบบสมจริงสุดๆ โดยที่นี่มีชั้นสองให้บริการด้วยส่วนของหน้าต่างทรงกลมทั้งสองชั้นเป็นเลนส์กล้อง Rolleiflex นั่นเอง
naturavive.com
grottapalazzese.it
instagram.com/frankcarrilho/
0 comments
Post a Comment