This email was sent to the alias 'blahblah@theeway2014.33mail.com' by 'busybee@blogtrottr.com',
and 33Mail forwarded it to you. To block all further emails to this alias click here
(Prefer no ads? Upgrade to Premium.)

Men MThai
 
ช่างฮง มือเทวดาผู้ปลุกชีพรถอเมริกันมาแล้วนับไม่ถ้วน
Mar 27th 2017, 00:59, by Rasta

"ทุกตารางนิ้วบนงานของผมต้องเต็มไปด้วยศิลปะและสมรรถนะ"

ตอนนี้เราอยู่ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งกลางใจกรุงเทพฯ รายล้อมไปด้วยรถอเมริกันราคาตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลายล้าน! เพื่อมาพบเป้าหมายคนสำคัญที่มีฉายาว่า 'ช่างเทวดา' ว่ากันว่าเขาคือกูรูตัวจริงอีกคนของวงการรถอเมริกันคลาสสิก และเรากำลังอยู่กับ คุณธรรมศักดิ์ ตันอำไพ หรือ 'ช่างฮง' มือเก๋าในวงการรถอเมริกันมากว่า 30 ปี เรียกว่าไม่ว่ารถรุ่นไหนในเมืองไทยต้องผ่านการชุบชีวิตกับเขามาเกือบหมด อะไรคือสิ่งที่คนเล่นรถอเมริกันยอมรับในฝีมือและความเนี้ยบระดับเทพไปค้นหาคำตอบกันเลย…

กว่าจะมาเป็น 'ช่างฮง' ในตำนาน
จุดเริ่มต้นได้ไปหัดงานช่างยนต์กับญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เป็นอู่ซ่อมรถอเมริกัน ซึ่งตอนนั้นเป็นรถของสถานฑูตเป็นหลัก ได้มีโอกาสฝึกซ่อมรถตั้งแต่อายุ 16 ทำมาเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งจึงได้แยกย้ายออกมาเปิดอู่เป็นของตัวเอง ซ่อมรถอเมริกันอยู่เหมือนเดิม ถามว่าตอนนั้นชอบรถอเมริกันมั้ย ตอบเลยว่าไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะอายุยังน้อยอยู่ เรียกว่าเกิดการซึมซับมาเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อยจนเรารู้สึกชอบเพราะมันเป็นรถที่ดีมาก

รถดีสำหรับช่างฮงเป็นแบบไหนครับ
ข้อดีคือมันเป็นรถที่แข็งแรง เรื่องความปลอดภัยเป็นเยี่ยมอยู่แล้ว เครื่องยนต์มีพละกำลังมหาศาล ตอนวัยรุ่นเราก็ชอบความแรงของมัน ถ้าไปเปรียบกับรถญี่ปุ่นหรือรถยุโรปในยุคนั้นเรียกว่าคนละเรื่องเลย เพราะรถอเมริกันเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 ซีซี ระหว่างที่เราซ่อมได้ลองขับได้คลุกคลีกับมัน ทำให้เราเริ่มชอบแบบไม่รู้ตัว แต่รถอเมริกันไม่ได้ดีซะทีเดียว มันก็มีข้อเสียเหมือนกัน มันกินน้ำมันตามเครื่องที่ใหญ่โตทำให้ไม่ค่อยสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวันมากนัก โดยในปัจจุบันมันจึงกลายเป็นรถสะสมกันมากกว่า

ที่อู่รับงานซ่อมประเภทไหนบ้างครับ
ตอนนี้ที่อู่ซ่อมรถอเมริกันเต็มสูบเลย ตั้งแต่ทำเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เบรค แอร์ เดินไฟ เรียกว่าแทบทุกอย่างและทุกยี่ห้อด้วย โดยเป็นรถสะสมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตอนนี้จะไม่ใช่การบำรุงรักษารถอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่จะเพิ่มการโมดิฟายด์เข้าไปด้วย เช่นห้องเครื่องต้องสวยงาม เสียงท่อเพราะ อีกทั้งประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ต้องเต็มร้อย

ความยากของการซ่อมรถอเมริกัน
ถ้าพูดตามหลักการของช่างอันที่จริงแล้วคล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นรถอเมริกัน ยุโรปหรือญี่ปุ่น แต่จะมีบางจุดที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษหรือว่าใช้ความชำนาญพิเศษ เหมือนหมอเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญเป็นบางเรื่อง ซึ่งถามว่ายากมั้ยสำหรับคนที่เริ่มต้นก็อาจจะยาก แต่สำหรับผมทำมานานแล้วมันคงไม่มีความลับอะไรที่เราไม่รู้สำหรับรถอเมริกัน

เสน่ห์ของรถอเมริกันสำหรับช่างฮง
รถอเมริกันก็ไม่ได้จะมีเสน่ห์ทุกคัน มันจะมีเป็นบางรุ่นบางซีรีส์ที่มันมีเสน่ห์ อย่างเช่นบางคันมีรูปทรงโค้งเว้าเหมือนมีทรวดทรงองค์เอว แต่รถบางคันก็สร้างขึ้นมาใช้งานอย่างเดียวดีไซน์เป็นเหลี่ยมไม่มีอะไรน่าสนใจ ในรถยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันบางทีออกมาไม่เป็นที่นิยม แต่บางปีออกมาเป็นอมตะเลยก็มี โดยเฉพาะรถในช่วงปี 60's ยุคที่มีการปล่อยยานอพอลโล สังเกตว่ารถช่วงนี้การดีไซน์จะเลียนแบบจรวดหรือยานอวกาศและคันใหญ่มาก ซึ่งเมื่อมีขนาดใหญ่เครื่องยนต์ก็เลยต้องแรงตาม และเครื่องยนต์แรงๆ ส่วนมากผลิตออกมาปี 1969 เพราะช่วงนั้นการแข่งขันของค่ายรถอเมริกันค่อนข้างสูง หลังยุค 70's ลงมาเศรษฐกิจไม่ดีน้ำมันเริ่มแพง แรงม้าและซีซีของเครื่องยนต์จะหายไปเรื่อยๆ ไม่บ้าบิ่นเหมือนช่วงยุค 60's

จำนวนรถอเมริกันคร่าวๆ ที่ผ่านมือ
ต้องมีหลักหลายร้อยคัน เท่าที่มีในไทยผ่านมือผมมาเกือบหมดนะ จริงๆ บ้านเรามีรถดีๆ เก็บไว้เยอะ อยู่ที่ว่าเขาจะเอาออกมาขับบนถนนหรือเปล่า เพราะบางคนทำเสร็จแทบจะไม่ได้ขับเลยอาจจะขับวอร์มเครื่องวนในหมู่บ้านแล้วจอด พอครบปีก็เอาขึ้นรถสไลด์มาถ่ายน้ำมันเครื่องขึ้นแล้วสไลด์กลับไป หรืออาจบางทีรถพวกนี้อาจเป็นมรดกที่ตกทอดมามีความหลังที่น่าจดจำของเขาเอง

รถอเมริกันถือว่าเป็นของเล่นคนรวยในยุคนี้หรือเปล่าครับ
ถ้าจะว่าไปก็ใช่นะ ยังไงก็ต้องยอมรับความจริงว่าคนที่มีกำลังซื้อมักจะได้เปรียบในวงการนี้ แต่คนมีกำลังซื้อน้อยก็เล่นได้ในขีดความสามารถของตัวเอง เมื่อมีน้อยก็ทำแต่น้อย ค่อยๆ ไป ลูกค้าประเภทนี้ของผมก็มีเหมือนกันไม่ใช่ว่าผมจะซ่อมให้คนรวยอย่างเดียว

กระแสรถอเมริกันในบ้านเราช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ
ถือว่าเป็นช่วงที่ความนิยมสูงมาก แต่ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจช่วงนี้ดาวน์ลงมานิดนึงก็เลยดูแผ่วไปนิดหน่อย ผมว่ามันน่าจะไปแบบนี้เรื่อยๆ มีแนวโน้มว่าน่าจะขึ้นมากกว่านี้อีก ดูได้จากราคารถอเมริกันที่ขึ้นปีต่อปีบางรุ่นอาจจะขึ้นถึงแสนกว่าสองแสนต่อปีด้วยซ้ำ

รุ่นไหนที่น่าเก็บครับ
เรียกว่าถ้าซื้อง่ายขายคล่องกระแสขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเป็น Ford Mustang ตั้งแต่ปี 1965 -1971 โดยเฉพาะถ้าเป็น Fastback จะราคาดีและไปเร็วมาก ถ้ามีคนขายนะ ส่วนยี่ห้ออื่นถ้าเป็นแนวคลาสสิกจะเป็น Chavrolet Impala หรือเป็นแนวสปอร์ตต้อง Corvette หรือ Camaro รถพวกนี้ถ้าสมบูรณ์และมีทะเบียนราคาไม่มีตก

อู่ของช่างฮงรับลูกค้ายังไงครับ
ผมจะมีเรทราคาที่ตายตัว ผมไม่เลือกลูกค้าที่ความจนหรือรวยถ้ายอมรับกับราคาที่ผมตั้งไว้ก็ซ่อมให้ทุกคันไม่มีปัญหา ลูกค้าบางคนรวยมากก็ใช่ว่าจะง่าย บางคนเก็บเงินยาก ยกตัวอย่างถ้าผมเบิกเงินสักแสนนึงเค้าอาจจะให้เราสำรองเงินไปก่อนเพราะอาจมองว่านั่นเป็นเศษเงินของเขา แต่สำหรับลูกค้าหลายคนรวยปานกลางกลับคุยง่ายกว่า มีความเข้าใจชีวิตมากกว่า บางทีเราบอกไปโอนมาให้ตอนนั้นเลย เพราะเขารู้ว่าธุรกิจของเราต้องใช้เงินหมุน

คิวซ่อมตอนนี้ยาวมั้ยครับ
ค่อนข้างยาวนะ แต่เล่นพวกนี้ไม่ควรรีบร้อน บางทีมันต้องดูความสวยงามความเรียบร้อย ที่สำคัญคือการรออะไหล่ด้วย เพราะท้องตลาดมีแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือต้องมาโมดิฟายด์เองหรือเรียกอีกอย่างว่า 'แฮนด์เมด' ขึ้นมา งานที่เจอบ่อยคือเฟรมยึด แท่นเครื่องไม่เดิม เพราะกว่ารถแต่ละคันจะเดินทางมาถึงมือผมต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมา 20-30 ปี ครั้งหนึ่งอาจเคยเปลี่ยนเครื่องญี่ปุ่นหรือเปลี่ยนเกียร์มาแล้ว เราเลยต้องแฮนด์เมดเฟรมยึดแท่นเครื่องขึ้นมาใหม่ให้กลับไปเหมือนออกมาจากโรงงาน

แนวทางการซ่อมของทางอู่
สมัยนี้แค่เครื่องเดิมๆ อย่างเดียวไม่พอ มันต้องสวย เสียงเพราะ ที่สำคัญต้องแรงด้วย งานของผมไม่ใช่แค่การซ่อมบำรุงแต่มันคืองานโมดิฟายด์ที่รวมงานศิลปะเข้าไปด้วย ซึ่งสิ่งนี้มันไม่มีตำราตายตัว มันต้องใช้จินตนาการและความชำนาญเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องคุยกับลูกค้าให้ชัดเจนก่อนเรื่องราคาและสเปคงานที่ต้องการ

ณ ตอนนี้ยังสนุกกับงานอยู่มั้ยครับ
ยังสนุกอยู่เพราะได้มีโอกาสระบายจินตนาการของเราใส่ไปในงานลูกค้า อาจเพราะทำด้วยความรักด้วยเลยไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรกับงานที่ทำอยู่ตรงนี้

กลุ่มลูกค้าของทางอู่
ค่อนข้างหลากหลายนะ นักธุรกิจใหญ่ก็มี ปานกลางก็มี เจ้าของร้านอาหาร นายธนาคาร ข้าราชการ ส่วนวงการบันเทิงก็มีน้าเน็คเป็นลูกค้าประจำ เรียกว่าลูกค้าของผมมีเกือบทุกสาขาอาชีพ แต่สิ่งที่เหมือนกันของคนเหล่านี้คือใจรักรถอเมริกันเพราะถ้าไม่รักจริงคงไม่มา

ว่ากันว่าถ้าจะเอารถมาซ่อมที่นี่รวยอย่างเดียวไม่พอต้องบ้าด้วย
สโลแกนของผมคือ 'ทำแล้วต้องใช้งานได้จริง' ดังนั้นผมจะมีต้นทุนที่แพงกว่าอู่อื่น รวมถึงต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก แต่รับประกันถ้ารถเสร็จแล้วคุณต้องขับไปพัทยาได้ ขับไปกินข้าวที่เยาวราชได้ ขับไปไหนก็ได้ที่คุณอยากจะไป พูดได้เต็มปากเลยว่าการทำรถคันนึงให้วิ่งได้มันไม่หมู รถที่ออกจากมือผมต้องขับได้ทุกถนนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นถนนที่รถติดที่สุดหรือขับทางไกลขนาดไหนก็ไปถึง กว่าผมจะส่งรถให้ลูกค้าต้องเสียค่าน้ำมัน 4-5 พันบาทเพื่อลองรถให้มั่นใจที่สุด

ตัวช่างฮงสะสมรถอเมริกันด้วยมั้ยครับ
มีสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันเป็นรถตู้ Dodge Van กับกระบะอเมริกัน ส่วนอนาคตอยากได้ Chevrolet Impala 1959 หรือจะเป็น Corvette C2 ก็น่าสนใจถ้ามีโอกาส

ฝากอะไรถึงคนที่เริ่มอยากลองเล่นรถอเมริกัน
อยากให้ศึกษารายละเอียดของรถรุ่นที่เราจะเล่นก่อนว่าชอบคันไหน แล้วมาปั้นให้เสร็จสมบูรณ์ตามกำลังทรัพย์และความพร้อมของเรา หลายครั้งไม่รอบคอบซื้อไปแล้วดันไปเจอคันที่โดนกว่าจะซื้อ 2 คันก็ไม่ไหวจะขายคันแรกทิ้งก็เสี่ยงขาดทุนอีก กลายเป็นว่าเสียซ้ำเสียซ้อนซะอีก จุดสำคัญคือหาใจตัวเองให้เจอแล้วทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มที่

ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมใน A'Lure Magazine Ver.6

You are receiving this email because you subscribed to this feed at blogtrottr.com. By using Blogtrottr, you agree to our polices, terms and conditions.

If you no longer wish to receive these emails, you can unsubscribe from this feed, or manage all your subscriptions.

This email was sent to the alias 'blahblah@theeway2014.33mail.com' by 'busybee@blogtrottr.com',
and 33Mail forwarded it to you. To block all further emails to this alias click here
(Prefer no ads? Upgrade to Premium.)

0 comments